รถไฟขบวนนี้สร้างโดย China Railway Rolling Stock Corporation (CRRC) หน่วยงานของรัฐบาลจีน ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงทดสอบก่อนที่จะนำเริ่มผลิตเพื่อขายจริงในปี 2021
Maglev คือชื่อย่อของ magnetic levitation ที่ใช้การเหนี่ยวนำแม่เหล็กและสนามไฟฟ้า ยกตัวรถไฟให้ลอยขึ้นจากราง ทำให้ไม่มีแรงเสียดทานจึงทำความเร็วได้สูงขึ้น ซึ่งจะช่วยย่นระยะเวลาเดินทางได้มากเมื่อเทียบกับรถไฟปกติ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราโดยสายเครื่องบิน 4.5 ชั่วโมง รถไฟความเร็วสูงจะใช้เวลา 5.5 ชั่วโมง แต่รรถไฟคันนี้จะใช้เวลาแค่ 3.5 ชั่วโมงเท่านั้น
ปัจจุบันจีนได้ให้บริการรถไฟ maglev แล้วแต่เป็นระยะทางสั้นๆแค่ 31 กิโลเมตรระหว่างสนามบิน Shanghai Pudong International Airport ไปยังย่านธุรกิจของเซียงไฮ้โดยใช้เวลาแค่ 7 นาที 20 วินาทีเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ทำความเร็วได้สูงสุดที่ 430 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ญี่ปุ่นเตรียมพร้อมเทคโนโลย maglev
ข้ามไปยังประเทศญี่ปุ่นก็มีการเตรียมนำรถไฟ maglev มาให้บริการเช่นกัน โดยอยู่ในช่วงทดสอบมาตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งตอนนั้นทำสถิติความเรวสูงสุดอยู่ที่ 603 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
คาดว่าจะนำมาเริ่มให้บริการจริงภายในปี 2027 เพื่อเติมเต็มบริการของ Chūō Shinkansen ในระยะทาง 286 กิโลเมตรระหว่างโตเกียวและโอซาก้าซึ่งจะใช้เวลาแค่ 67 นาทีเท่านั้น เรียกว่าน่าจะถูกใจคนต่างชาติที่จะทำให้มีเวลาท่องเที่ยวเยอะขึ้น
ส่วนรถไฟชินคังเซ็นเองก็พัฒนาให้วิ่งบนรางเดิมให้เร็วขึ้น ซึ่งรุ่นล่าสุดทำความเร็วได้เกือบ 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โมเดลใหม่ Alfa-X หรือ E956 Series ที่กำลังทดสอบอยู่นี้ตั้งเป้าทำความเร็วให้ได้ถึง 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
VIA Digitaltrends