มาอีกแล้วจ้า ตลาดสมาร์ทโฟนตอนนี้เรียกได้ว่าเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่กันอย่างไม่หยุดเลยทีเดียว ล่าสุด OnePlus ก็มาด้วย พร้อมกับการเปิดตัว OnePlus 7T Series ขนทัพมาถึง 3 รุ่น ชูเด่นในเรื่องหน้าจอ 90Hz ที่เขาบอกว่า “Smooth Like Never Before”
วันนี้จะมาพรีวิวจับเครื่องจริงใน 3 รุ่นให้ดูว่าเหน้าตาป็นอย่างไรบ้าง แล้วจะโดนใจใครบ้าง
เริ่มที่ OnePlus 7T
รุ่นนี้เป็นรุ่นที่เล็กที่สุดในการเปิดตัวครั้งนี้ค่ะ มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัวแบบ Triple Camera เรียงหน้าเป็นแถวตรงแนวนอน พร้อมมุมมองกลมๆ ด้านหลัง ซึ่งถ้าใครเคยเห็นภาพหลุดก่อนหน้านี้ก็น่าจะพอจำกันได้บ้าง ส่วนดีไซน์หน้าจอมาพร้อมความกว้างขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ แสดงผลภาพหน้าจอรีเฟรชเรทที่ 90Hz เขาว่าไหลลื่นมากๆ เลยทีเดียว (ซึ่งจากการทดลองเล่นเองแบบไวไวก็ลื่นไหวเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ)
มาดูที่คุณภาพกล้องของรุ่นนี้กันบ้าง เพราะเชื่อว่าน่าจะเป็นสิ่งที่หลายคนกำลังสนใจ
กล้องหลังรุ่นนี้ 3 ตัวแบบ Triple Camera ประกอบไปด้วย กล้องหลักความละเอียดที่ 48 ล้านพิกเซล , เลนส์ TelePhoto ความละเอียดที่ 12 ล้านพิกเซล และเลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เห็นเป็นรุ่นเล็กแบบนี้เขาไม่ธรรมดาน๊ะจ๊ะในเรื่องกล้อง ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เป็นติ่งอยู่ที่บริเวณหน้าจอแหละ อ่อ! ในกล้องหลังของเขาสามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K และ 1080P ได้ด้วยนะและยังรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Time-Laps และ ตัดต่อวิดีโอได้ทันทีด้วย
สเปคในรุ่นนี้ มาพร้อมกับ RAM 8GB ROM 128GB พร้อมด้วย USF 3.0 ที่เร็วแรงและไหลลื่น
OnePlus 7T ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 855+ มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android10 ครอบทับด้วย OxygenOS10 ส่วนแบตเตอรี่ความจุที่ 3,800 mAh มาพร้อมเทคโนโลยี Warp Charge 30T ชาร์จ ที่ทาง One Plus เคลมว่าชาร์จแค่ 30 นาทีได้แบตเตอรี่ 70 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
ในรุ่น OnePlus 7T ในมุมมองส่วนตัวรู้สึกว่าความใหม่ที่เกิดขึ้นใน OnePlus 7T ที่ต่างจาก OnePlus 7 Pro ที่เปิดตัวไปเมื่อกลางปี 62 ที่ผ่านมานั้น คือ เรื่องดีไซน์การวางตำแหน่งกล้องด้านหลังที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ที่ว้าวมากๆ ก็คงเป็นหน้าจอแสดงผลผ่านการสัมผัสที่มีความไหลลื่น โดยมีค่ารีเฟรชเรทที่ 90Hz อันนี้จากการสัมผัสแล้วต้องบอกว่าลื่นไหลและ Smooth มากจริงๆ
ราคาเปิดตัวในรุ่น OnePlus 7T อยู่ที่ 17,990 บาท
ต่อกันที่รุ่น OnePlus 7T Pro
ตัวนี้เป็นรุ่นที่อัปเกรดขึ้นมาไม่ใช่เพราะว่ามีชื่อ Pro นะคะ แต่เพราะการดีไซน์ของรุ่นนี้เริ่มเห็นถึงความหรูหราขึ้น ซึ่งในรุ่นนี้เขามาพร้อมกับรุ่นพิเศษที่ทำร่วมกับ Mclaren ด้วย
ในรุ่น 7T Pro ตัวนี้ต้องบอกว่าความแตกต่างจะชัดมากกับรุ่น 7T ธรรมดา เพราะการดีไซน์หน้าจอของเขามาแบบ Full Screen ที่ไร้ขอบ ไร้ติ่ง เพราะกล้องหน้ารุ่นนี้เป็นแบบป๊อปอัพ ที่มองรวมๆ แล้วแทบจะคล้ายกับ OnePlus 7 Pro ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว แต่มันก็ไม่ทั้งหมด
ความเด่นในเรื่องกล้องของรุ่นนี้ต้องยกให้ที่ กล้องหลัง 3 ตัว แบบ Triple Camera กล้องหลักมาพร้อมความละเอียด 48 ล้านพิกเซลเช่นเดียวกับรุ่น OnePlus 7T ขณะที่เลนส์ TelePhoto ความละเอียดที่ 8 ล้านพิกเซล และเลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียดที่ 16 ล้านพิกเซล
แต่ที่พิเศษสุดๆ ของกล้องในรุ่นนี้ คือ เขามาพร้อมกับเทคโนโลยี Zoom ที่บอกว่าไม่เสียรายละเอียดของภาพ ในการ Zoom ระยะถึง 3 เท่า (3x Optical zoom) และถ่าย Macro ได้ใกล้ถึง 2.5 เซนติเมตรเลยทีเดียว ขณะที่การถ่ายวิดีโอก็ทำได้ไม่แพ้กับรุ่น OnePlus7T เพราะถ่ายได้ทั้งแบบ 4K และ 1080P รองรับการถ่าย Super Slow Motion, Time-Lapse และตัดต่อวิดีโอได้ทันที
ขณะที่กล้องหน้าของรุ่นนี้มาแบบป๊อปอัพ ความละเอียดที่ 16 ล้านพิกเซล ตามสไตล์ของ OnePlus เขาแหล่ะ
การดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอกของรุ่นนี้ หน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว ความคมชัดแบบ QHD+ รองรับความชัดระดับ HRD 10+ และการแสดงผลหน้าจอที่มีค่ารีเฟรชเรท 90Hz เช่นกัน ถ้าพูดถึงเรื่องความคล่องตัวในการจับรุ่นนี้ก็ถือว่าถนัดมือเลย ด้วยน้ำหนักที่ไม่หนักจนเกินไป
สเปคในรุ่นนี้มาพร้อม RAM 8GB ROM 256GB และ USF 3.0 ที่ช่วยให้การอ่านข้อมูลทำได้อย่างรวดเร็ว พ่วงด้วยชิปเซ็ทประมวลผล Qualcomm Snapdragon 855+ ในระบบปฏิบัติการ Android10 ครอบทับด้วย
OxygenOS พิเศษไปกว่านั้นด้วยลำโพง สเตอริโอแบบ Dolby Atmos ที่ช่วยให้การเล่นเกม หรือ ฟังเพลงนั้นเปลี่ยนไปในประสบการณ์ที่ใหม่กว่าเดิม
ส่วนเรื่องแบตเตอรี่รุ่นนี้ก็ไม่น้อยหน้าน๊ะจ๊ะความจุให้มาถึง 4,085 mAh มากกว่ารุ่น 7T ธรรมดา พร้อมเทคโนโลยีชาร์จไว Warp Charge 30T เช่นเดียวกัน ชาร์จไว ชาร์จเร็ว ใช้งานได้สบายหายห่วง
ถ้าจะให้พูดถึงความใหม่ในรุ่น OnePlus 7T Pro ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องกล้องที่เป็นแบบป๊อปอัพ พร้อมกับคุณภาพกล้องหลังที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงแบตเตอรี่ที่จัดเต็มสะทีชาร์จคงต้องนอนเหงาเลยทีเดียว
ราคาเปิดตัวในรุ่น OnePlus 7T Pro อยู่ที่ 26,990 บาท
ต่อที่อีกหนึ่งรุ่นพิเศษในการเปิดตัว OnePlus 7T Series ครั้งนี้
นั้นก็คือรุ่นพิเศษที่เอาใจสายรักความแรง อย่าง OnePlus 7T Pro McLaren Edition ในรุ่นนี้ต้องบอกเลยว่าลักษณะแทบไม่ต่างอะไรกับรุ่น OnePlus 7T Pro เลย มีเพียงแค่สเปคที่เพิ่มขึ้นให้สอดคล้องกับคอนเซปต์ที่แรง เร็วขึ้นตามแบรนด์ McLaren นั้นก็คือ ให้ RAM 12GB ROM 256GB
แต่ถ้าลองสังเกตดีๆ เราก็จะเห็นดีไซน์ตัวเครื่องที่โดดเด่นต่างจากรุ่น OnePlus 7T Pro ก่อนหน้าอย่างมาก ด้วยลุคที่ให้ความหรูหราเพิ่มขึ้นอีกระดับเพราะมีการเล่นเฉดสี และ ลายของตัวเครื่อง ที่มาในดีไซน์ตัวเครื่องสีส้มเรียกว่า Papaya Orange ซึ่งเขาบอกว่าเป็นเอกลักษณ์ของ McLaren เลยนะ ส่วนฝาหลังของตัวเครื่องก็ได้แรงบันดาลใจในการดีไซน์จากการตกแต่งภายในของรุ่น MaLaren Speedtail (2020) ที่ชวนดึงดูดสายตาเอามากๆ เลยทีเดียว
ราคาเปิดตัวในรุ่น OnePlus 7T Pro McLaren Edition อยู่ที่ 29,990 บาท
สรุป ทั้ง 3 รุ่นจาก OnePlus 7T Series ที่ปล่อยออกมาในครั้งนี้ ความเด่นที่ทาง OnePlus ต้องการเสนอและชูเป็นจุดเด่น นั้นก็ คือ ความลื่นไหล บนหน้าจอสมาร์ทโฟนแบบ 90Hz ซึ่งเขาเคลมตัวเองว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกเลยทีเดียวที่นำเทคโนโลยีค่ารีเฟรชเรท 90Hz มาใช้บนสมาร์ทโฟน นับเป็นการยกระดับมาตราฐานหน้าจอสมาร์ทดฟนในท้องตลาดด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ราคาของแต่ละรุ่นเมื่อเทียบความคุ่มค่าแล้วคงต้องให้ผู้ใช้งานเป็นคนตัดสินใจอีกที แต่สำหรับเราคิดว่าเลือกในแบบที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเองดีกว่า ชอบรุ่นไหน ตัวไหน จัดไปค่ะ