Foxconn รุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า จับมือปตท เดินหน้าตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย  คาดผลิตได้ 150,000 – 200,000 คันต่อปี

ไทยถือเป็นผู้นำในการผลิตรถยนต์นนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยทำกำลังผลิตมากกว่า 2 ล้านคันต่อปี โดยจำนวนเกินกว่าครึ่งนึงที่ผลิตได้จะส่งออกไปยังต่างประเทศ  ฟากของรัฐบาลไทยเองพยายามดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมด้านนวัตกรรม รวมถึง รถยนต์ไฟฟ้า พร้อมประกาศวิศัยทัศน์ 30/30 สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ตั้งเป้าปรับสัดส่วนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มเป็น 30% ภายในปี 2030 ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าปีละ 725,000 คันภายในปี 2030 รวมถึงมีการตั้งคณะกรรมเพื่อกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องและสร้างแรงจูงใจในการพัฒนาสร้างระบบนิเวศน์ของยานยนต์ไฟฟ้าในไทย

ทาง Foxconn เองพยายามขยายฐานธุรกิจของตัวเองในธุรกิจ EV ด้วยการใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์, ชิ้นส่วนหลักๆที่สำคัญ, การประกอบรถยนตื จนไปถึงการพัฒนาซอฟท์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับการขับ นอกจากนั้นทาง Foxconn ยังพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์บนแพลตฟอร์มแบบเปิดในชื่อว่า MIH EV Open Platform ซึ่งประกอบด้วย โครงรถ, สถาปัตยกรรมไฟฟ้า และระบบสนับสนุนไร้คนขับเพื่อช่วยให้ค่ายผู้ผลิตรถยนต์พัฒนาย่นเวลาในการพัฒนา โดยเฉพาะค่ายที่เพิ่งหันมาเริ่มต้นพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาทาง ปตท.ได้เซ็น MOU กับ บริษัท Foxconn ที่ถือเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่จากไต้หวัน ในการพัฒนาแพลตฟอร์ม EV และผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับป้อนตลาดไทย  มาวันนี้ก็มีการประกาศสร้างโรงงานในสหรัฐและไทยเพื่อรุกตลาดยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรง ทดแทนอุตสาหกรรมมือถือที่เติบโตช้าลง

Young Liu ประธานของ Foxconn กล่าวในงานแถลงผลประกอบการว่า “เราวางแผนเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งในสหรัฐและไทยเพื่อออกสู่ตลาดในปี 2023 นอกจากนั้นเรายังเจรจากับประเทศอื่นๆในยุโรปเพื่อตั้งโรงงาน นี่ถือเป็นกลยุทธ์ด้าน EV ของเรา”

Liu กล่าว่า โรงงานในไทยเป็นการร่วมทุนระหว่าง Foxconn และปตท.เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับ EV และผลิตชิ้นส่วนซึ่งโรงงานแห่งนี้จะเน้นป้อนตลาดในประเทศก่อน จากนั้นจะค่อยๆขยายกำลังผลิตส่งออกไปยังภูมิภาพเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในเบื้องต้นคาดว่าจะมีกำลังผลิตปีละ 150,000 – 200,000 คัน ส่วนโรงงานในสหรัฐจะเน้นตลาดอเมริกา โดยมีลูกค่าหลักคือ Fisker สตารทอัพด้าน EV ที่ทาง Foxconn จะเริ่มผลิตรถให้ในช่วงปลายปี 2023

นอกจากนั้น Foxconn วางแผนที่จะซื้อโรงงานจากผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่ของไต้หวันในราคา 2,520 ล้านดอลลาร์เพื่อให้การผลิตชิปมีความมั่นคง หมดห่วงเรื่องของชิปขาดตลาด

Foxconn เองเพิ่งประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สองของปี 2021 เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา กำไรรวมเพิ่มเขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เรียกว่าเป็นไตรมาสที่มีกำไรสูงสุดในช่วงเวลา 3 ไตรมาสที่ผ่านมา

ด้านของรายได้เองก็โตขึ้นเกือบ 27% ทำรายได้แตะ 3.11 ล้านล้านเหรียญไต้หวันในเวลาแค่ 7 เดือนของปีนี้ ปัจจัยหลักคือ การที่คนต้องอยู่บ้านมากขึ้น ทำให้อุปกรณ์อย่างสมาร์ตโฟน, พีซี, แล็ปท็อป, เครื่องเล่นเกม, เซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์เครือข่ายขายดีขึ้น

ที่มา PTT  / nikkei