ไฟเซอร์ และบริษัทยาหลายๆเจ้าพัฒนาและทดสอบยาเม็ดต้านโควิดใกล้สำเร็จ เป็นความหวังใหม่ในการกำจัดโควิด-19 คาดว่าใช้จริงได้ปี 2021 นี้

ยาเม็ดโควิด Pfizer

ไฟเซอร์ ระบุว่า ทางบริษัทจะศึกษายา  PF-07321332 ในผู้เข้าร่วมที่เป็นผู้ใหญ่ร่างกายแข็งแรง 2,660 คน อายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งอาศัยอยู่ในครอบครัวเดียวกัน ที่มีการยืนยันว่า มีผู้แสดงอาการติดเชื้อโควิด-19 โดยการทดลองจะทดสอบตัวยา PF-07321332 ร่วมกับยาริโทนาเวียร์ ในปริมาณต่ำ ซึ่งเป็นยาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการผสมสูตรกับยาตัวอื่นใช้รักษาผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี

ทิโมธี เชียฮาน นักไวรัสวิทยาผู้ช่วยคิดค้นการรักษานี้กล่าวว่า  “ยาต้านไวรัส ไม่เพียงจำกัดระยะเวลาแสดงอาการ แต่ยังช่วยป้องกันการแพร่เชื้อไปยังคนอื่นในบ้าน ถ้าคุณป่วย”

 

การทดลอง ระยะที่ 2/3 ของ Pfizer

หลังจากทดลองระยะแรกในช่วงเดือนมีนาคม 2021 ในระยะที่สองนั้นจะเป็นการศึกษาแบบสุ่ม ปกปิดด้วยยาหลอก และจะลงทะเบียนผู้เข้าร่วมผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปจำนวนสูงสุด 2,660 คน ผู้เข้าร่วมจะได้รับการสุ่ม (1:1:1) เพื่อรับ PF-07321332/ritonavir หรือยาหลอกวันละสองครั้งเป็นเวลา 5 หรือ 10 วัน

นอกเหนือจากการศึกษานี้ ยังมีการทดลองทางคลินิกอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง ซึ่งรวมถึงการทดลองในผู้ป่วยที่ติดเชื้อ SARS-CoV-2 ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเจ็บป่วยที่รุนแรง (รวมถึงการรักษาในโรงพยาบาลหรือการเสียชีวิต) ซึ่งเริ่มในเดือนกรกฎาคม 2021 และอีกกรณีหนึ่ง ในผู้ป่วยที่ติดเชื้อที่มีความเสี่ยงมาตรฐาน (เช่น ไม่มีปัจจัยเสี่ยงในการเจ็บป่วยรุนแรง) ซึ่งเริ่มในเดือนสิงหาคม 2021ไปแล้ว

ยาเม็ดโควิด Merck & Co.

ส่วนอีกบริษัทที่กำลังพัฒนายาเม็ดรักษาโควิด คือ เมอร์ค พร้อมด้วยบริษัท ริดจ์แบ็ก ไบโอเทราพิวติกส์ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนกัน แถลงว่า พวกเขาได้เริ่มลงทะเบียนผู้ป่วยในการทดลองขั้นตอนสุดท้ายของยาเม็ดที่ชื่อว่า “โมลนูพิราเวียร์” สำหรับป้องกันไวรัสโควิด-19

นายเจย์ โกรเบลอร์ หัวหน้าฝ่ายวัคซีนและโรคติดเชื้อของ เมอร์ค กล่าวว่า เนื่องจาก ยาโมลนูพิราเวียร์ ไม่ได้เล็งเป้าหมายไปที่หนามโปรตีนของไวรัสโควิด-19 ซึ่งแตกต่างจากวัคซีนโควิด-19 ทั่วๆไป จึงทำให้ยาโมลนูพิราเวียร์มีประสิทธิภาพในการ ยับยั้งไวรัสโควิด-19 แม้ว่าจะมีการกลายพันธุ์ก็ตาม

ยาต้านไวรัส 3 ตัวอยู่ในช่วงทดลอง

  1. ยาต้านไวรัสของบริษัท Pfizer ชื่อ ‘PF-07321332’
  2. ยาต้านไวรัสของบริษัท Merck & Co. ที่ร่วมกับบริษัท Ridgeback Biotherapeutics พัฒนาตัวยาชื่อ ‘โมลนูพิราเวียร์’ (molnupiravir)
  3. ยาต้านไวรัสอีกตัว คือ AT-527 ที่พัฒนาโดยบริษัท Roche และ Atea Pharmaceuticals

ส่วนยาที่คาดว่าจะใช้ได้จริงก่อน คือ ‘โมลนูพิราเวียร์’ (molnupiravir) ตามมาด้วย pfizer ที่กำลังทดลองอยู่ในเฟสที่ 2 จากทั้งหมด 3 เฟส หากผลการทดลองเป็นไปด้วยดีคาดว่าจะผลิตออกไปใช้จริงได้อย่างรวดเร็วในปริมาณมาก แต่อย่างไรก็ตามยาเม็ดดังกล่าวนี้มีประสิทธิภาพไม่เทียบเท่ากับการฉีดวัคซีน แต่ยาเม็ดเป็นเพียงตัวเลือกเพื่อแก้ปัญหาเพิ่มเติมหากคิดโควิด-19

ข่าวดังกล่าวทำให้ราคาหุ้นของเมอร์คพุ่งขึ้นถึง 1.71 ดอลลาร์ หรือ 2.33% สู่ระดับ 75.03 ดอลลาร์

ที่มา: Pfizer, Reuters