ยอดตกกว่า 15% เมื่อเทียบกับช่วงที่เคยต่ำสุดของปีที่แล้ว (มิถุนายน 2020) ในปีนี้เริ่มเห็นการเติบโตที่ช้าลง เนื่องจากผู้คนหลายส่วนเริ่มกลับมาทำงานกันในออฟฟิศกันแล้ว เทียบมูลค่าตลาดแล้ว ต่ำกว่าช่วงสูงสุกเมื่อตอนตุลาคมปี 2020 กว่า 3.3ล้านล้านบาท นั้นเท่ากับหุ้นที่ตกลงไปกว่า 64% ถึงแม้จะเจอกับสภาวะถดถอย แต่โดยภาพรวมแล้วหุ้นก็ยังถือว่าขึ้นมากกว่า 500% เมื่อนับตั้งแต่ตอนเปิดตัวเมื่อปี 2019 อยู่ดี
นอกจาก Zoom ที่เป็นหนึ่งในผู้ชนะในช่วงสถาณการโควิท ได้เริ่มชะลอตัวลง บริษัทอื่นๆที่ได้เติบโตกันอย่างรวดเร็วในช่วงโควิทก็เริ่มเห็นอาการชะลอตัวลงตามๆกัน อย่างเช่น บริษัท เทลาด็อก (Teladoc) บริษัทเกี่ยวกับสุขภาพแบบออนไลน์ ที่เห็นการตกลงของหุ้นจนแทบจะเทียบเท่ากับช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่แล้ว ซึ่งชี้สัญญาณว่าสถาณการโควิทเริ่มที่จะดีขึ้นแล้ว
นอกจากนี้มาตรการจากทางรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่กำลังเพิ่มการอัดฉีดในอัตราผลตอบแทนในพันธบัตรรัฐบาล ที่อาจจะทำให้มูลค่าของกำไรในอนาคตลดลง ซึ่งจะส่งผลกระทบกับบริษัทเหล่านี้ได้ และยังแสดงให้เห็นในดัชนี Nasdaq 100 ที่ร่วงลงมากว่า 0.5% เมื่อวันอังคารที่แล้ว (23 พฤศจิกายน) ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ตกลงมาแล้ว 1.2% ในวันจันทร์
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายๆคนยังคาดการณ์ว่าการเติบโตของบริษัท Zoom น่าจะเด่งกลับขึ้นมาอีกครั้งเนื่องจากยังเล็งเห็นถึงโอกาสในด้านธุริการด้านการสื่อสาร และเนื่องจากการที่มูลค่าที่ตกลง
ในครั้งที่มูลค่าของบริษัทเคยสูงมากๆ การเทหุ้นออกครั้งนี้ทำให้มูลค่าลดลงถึง 13เท่า และถูกกว่าบริษัทเทคโนโลยีเจ้าอื่นๆในตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
นายริชชิ จาเลอเรีย นักวิเคาระห์ตลาดจาก RBC Capital Markets กล่าวว่า ช่วงไตรมาตรที่ผ่านมานั้นมีหลายๆที่น่าสนใจในตลาด แต่ก็บางอย่างก็ต้องจจับตาดูดีๆ โดยเฉพาะความกังวลเรื่องการเติบโตของบริษัท Zoom ภายหลังสถานการณ์ของบริษัทภายหลังโควิท “We certainly saw a lot from the quarter to like, but also a fair amount to pick on, especially given fears about Zoom post-pandemic,”