UBER เผยแคมเปญช่วยลดการใช้รถใช้ถนน ในชื่อ Unlocking Bangkok พุ่งเป้ารณรงค์ลดการใช้รถ หันมาให้คนไทยใช้ Ridesharing มากขึ้น จากสถิติประเทศไทยรถติดอันดับ 1 ในเอเชีย
UBER
จากการสำรวจการจราจรในภูมิภาคอาเชียนนั้นพบว่าการจราจรในหลายๆเมืองนั้นเริ่มติดขัดเพิ่มขึ้นทุกปี โดยกรุงเทพครองอันดับ 1 ที่มีรถติดมากที่สุด ตามมาด้วยจาการ์ตา มะนิลา ฮานอยและกัวลาลัมเปอร์
ปัญหาหลักของรถติดก็คือการมีรถมากกว่าพื้นที่ถนนที่สามารถใช้งานได้ ในกรุงเทพเองมีรถที่จดทะเบียนมากกว่า 5.8 ล้านคันซึ่งถ้าหากเราจะใช้ที่จอดก็เทียบเท่ากับสนามบินสุวรรณภูมิถึง 8 สนามบิน โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนนั้นจะมีรถยนต์มากถึง 160% ของรถที่ควรจะมี ส่งผลให้คนกรุงเทพนั้นเสียเวลาไปกับรถติดเฉลี่ยแล้ววันละ 72 นาที เสียเวลาอีก 24 นาทีในการหาที่จอดรถ รวมแล้วเราใช้เวลาปีละ 24 วันไปกับท้องถนนโดยเปล่าประโยชน์
นอกจากนั้นการใช้รถเองก็ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เพราะรถยนต์หนึ่งคันสามารถนั่งได้ 5 คน แต่รถส่วนใหญ่ที่อยู่บนท้องถนนนั้นจะมีคนแค่ 2.1 คนเท่านั้น เมื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาคิดเป็นต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์จะพบว่าเทียบเท่ากับ GDP 2-3% ของประเทศหรือคิดเป็นเงินกว่า 9 แสนล้านบาทเลยทีเดียว บริการ Ridesharing ทาง Uber เอง ถือเป็นอีกทางเลือกในการเดือนทางที่ช่วยลดปัญหารถติดได้ หากคนหันมาใช้บริการมากขึ้นจะช่วยลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนนได้ถึง 60% เลยทีเดียว เมื่อนำมาใช้งานร่วมกับระบบขนส่งมวลชนประเภทอื่นๆก็จะช่วยใหบรรเทาปัญหารถติดได้ดียิ่งขึ้น
อูเบอร์ยังร่วมมือกับ Boston Consulting Group มาช่วยศึกษาผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับเมืองต่างๆ เมื่อมีการนำแนวคิดบริการร่วมเดินทางมาให้งานมากขึ้น ปัจจุบันเมืองทางๆนั้นก็เจอปัญหาแบบเดียวกันก็คือปริมาณความต้องการเดินทางนั้นสูงกว่าปริมาณท้องถนน ต่อให้ขยายถนนเท่าไหร่ก็ไม่สอดคล้องกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นรวดเร็วกว่า การแก้ปัญหานั้นจะต้องทำควบคู่ไปสองทาง
ทางแรกคือภาครัฐเองต้องลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมมาคมให้เพียงพอซึ่ก็ต้องใช้ทั้งบประมาณและเวลา ทางที่สองก็คือเพิ่มมูลค่าจากสินทรัพย์ที่มีอยู่เดิม ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น ซึ่งตรงส่วนนี้บริการร่วมเดินทางจะมาช่วยแก้ปัญหาได้ จากการเพิ่มการใช้งานรถยนต์ที่มีอยู่บนท้องถนนให้บรรจุคนได้มากขึ้น นอกจากนั้นบริการร่วมเดินทางยังมีความยืดหยุ่นสูงซึ่งคนขับเองสามารถนำรถที่ตัวเองมีมาให้บริการได้ทันที ทุกเวลาที่สะดวก โดยมีเทคโนโลยีเป็นตัวกลางในการจับคู่กับฝั่งผู้ใช้งานพร้อมวางแผนเส้นทางได้อย่างฉลาด ช่วยลดระยะเวลาที่ต้องใช้บนท้องถนน
จากงานวิจัยพบว่าคนรุ่นใหม่ 10-40% ที่วางแผนจะซื้อรถใหม่นั้นจะหันมาใช้บริการร่วมเดินทางแทนการซื้อรถใหม่, ช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยต่อรถหนึ่งคันได้ 1.7 เท่า, ช่วยเสริมตรงจุดที่ระบบขนส่งสาธารณะไม่ครอบคลุม ทางภาครัฐเองก็สามารถชะลอการลงทุนสร้างระบบพื้นฐาน สามารถจัดสรรงบประมาณไปใช้เรื่องที่จำเป็นได้ก่อน ทั้งหมดนี้จะช่วยลดจำนวนรถบนท่องถนนได้ 40-70% เลยทีเดียว
ด้วยเหตุนี้จึงเกิดขึ้นเป็นโครงการ Unlocking Bangkok ลดปัญหาการจราจรในกรุงเทพ ด้วยก่ีเปิดตัวภาพยตร์ที่มีชื่อว่า “Boxes” ที่จำลองสถานการณ์ปัจจุบันในรูปแบบขำๆแต่ก็ทำให้เราฉุกคิดถึงปัญหาที่ต้องเจออยู่ เพื่อให้ทุกฝ่านหันหน้าเข้าหากันร่วมแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง