ถ้าใครพอสนที่จะสนใจเรื่องราวของเทคโนโลยีบล็อกเชน เชื่อว่าน่าจะจำกันได้ หลังจากปีก่อนทางสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทยได้จัดมหกรรมงานบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อเป็นการขับเคลื่อนวงการเทคโนโลยีไทย ให้เตรียมพร้อมสำหรับการมาถึงของเทคโนโลยีบล็อกเชนที่อาจจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำธุรกรรมของคนทั้งโลก และ พลิกโฉมธุรกิจ การเงิน การลงทุน หรือแม้แต่บริการภาครัฐด้วย โดยในปีนี้มีการจัดงานภายใต้แนวคิด The Future of Financial Disruption

โดยทางสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย เชื่อว่ายังมีคนไทยจำนวนมากที่ไม่เข้าใจเรื่องบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล ถูกหลอกลวง และยังมองไม่เห็นโอกาสจากศักยภาพของบล็อกเชน ดังนั้นจึงเชื่อว่างาน Blockchain Thailand Genesis 2019 จะเป็นงานที่ให้คำตอบสำหรับใครหลายๆ คนที่ยังค้างคาในว่าเทคโนโลยีนี้จะเข้ามาช่วยเรื่องอะไร และมีผลลัพธ์กับอะไรบ้างในอนาคต

ด้าน รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย กล่าวว่า ความสำคัญของเทคโนโลยีบล็อกเชนมีศักยภาพในการช่วยพัฒนาประเทศอย่างมาก สามารถนำมาใช้ในกิจการต่างๆ ได้หลากหลาย อย่างเช่น การจัดการเลือกตั้ง การบริหารจัดการโฉนดที่ดิน การจัดเก็บข้อมูลสุขภาพของประชาชน จำเป็นอย่างยิ่งที่คนทั้งในและนอกอุตสาหกรรมจะต้องมาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อให้การประยุกต์ใช้บล็อกเชนในเมืองไทยเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม

ขณะที่ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ปรึกษากิตกิตติมศักดิ์ สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ก็กล่าวเสริมในเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัล ว่า ประเทศตะวันตกหลายประเทศเริ่มเกิดวิกฤตศรัทธาในธนาคารกลางและธนาคาพาณิชย์ นำมาสู่การทำธุรกรรมแบบ Peer-to-Peer ที่เติบโตขึ้น ลูกค้ารายย่อยและธุรกิจสามารถเชื่อมต่อกันได้ โดยไม่ผ่านตัวกลางอย่างธนาคาร ในเมืองไทยเองก็มีบริษัทที่นำเทคโนโลยีมาต่างๆ มาใช้ เพื่อปล่อยสินเชื่อโดยไม่ผ่านแบงก์แล้ว ในเรื่องของบล็อกเชน สินทรัพย์ดิจิทัล และคริปโตเคอเรนซี จึงเป็นเรื่องที่คนไทยทุกคนจำเป็นต้องเรียนรู้