เทคโนโลยีในปัจจุบันนั้นมีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบ และก็เหมือนทุกๆอย่างถ้าถูกใช้อย่างถูกต้อง แน่นอนว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับความเป็นอยู่ของทุกคนในสังคมได้ เทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันมีหลากหลายไม่แพ้วงการไหน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีรากฟันเทียม การทำฟันปลอมโดยผ่านเครื่อง 3D scanning หรือแม้แต่การเก็บ stemcell ที่มีความสำคัญมากๆในเวลาฉุกเฉิน เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนช่วยสำคัญให้เราสามารถรับมือกับโรคร้ายหรือความผิดปกติได้ดีขึ้นมาก เมื่อเทียบกับหลายสิบปีก่อน ในช่วงที่เทคโนโลยี ยังไม่ได้ล้ำสมัยขนาดนี้
ล่าสุด ประเทศฝั่งลาตินอเมริกาอย่างประเทศบราซิลได้นำเทคโนโลยี 3D Printing และภาพสามมิติ มาช่วยในการแพทย์เพื่อผลิดเป็นซิลิโคนชิ้นส่วนของผิวหนังเพื่อผู้ป่วยที่สูญเสียขากรรไกรจากเนื้องอกบนใบหน้าได้ใช้เป็นเหมือนการตกแต่งและปกปิดผิวหนังที่หายไปให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
เดนิส วินเซนทิน หญิงชาวบราซิล อายุ 53 ปีได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเมื่อ 30 ปีที่แล้วซึ่งทำให้เธอการสูญเสียขากรรไกรส่วนด้านขวาข้างของใบหน้าและดวงตาด้านขวาไป เธอให้สัมภาษณ์ว่าการใช้ชีวิตลำบากมาก เนื่องจากทำให้เธอสูญเสียความสามารถทางการพูดไป และทานอาหารได้ลำบาก นักวิทยาศาสตร์ชาวบราซิลจากมหาวิทยาลัย Paulista ในเซาเปาโล ดร. โรดริกโก ซาลาซาร์ หัวหน้าทีมวิจัยได้คิดค้นการใช้สมาร์ทโฟนในการถ่ายภาพจากหลากหลายมุมมองเพื่อที่จะสร้างภาพ 3 มิติและใช้ 3D Printing ในการพิมพ์ผิวหน้าใหม่ให้กับเดนิส เพื่อใช้ในการปกปิดส่วนที่ผิดปกติไว้ ดร. โรดริกโกอธิบายอีกว่ากระบวนการทั้งหมดรวมถึงการทำผิวหนังแพทย์ต้องใช้ความพิถีพิถันทั้งในการตกแต่งสีสันและดูสีของตา ทั้งหมดใช้เวลา 12 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าลดกว่าเวลาปกติที่ใช้วิธีการแบบดั้งเดิม และยังลดค่าใช้จ่ายของอุปกรณ์เทียมได้อีกด้วย
ตั้งแต่ที่มีเทคนิคนี้มีผู้ป่วยมากกว่า 50 ราย ที่ได้รับการรักษาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและในปีก่อน ดร. โรดริกโกยังได้รับการจัดอันดับเป็น MIT Technology Review 2019 ในฐานะหนึ่งในผู้คิดค้นนวัตกรรมที่อายุต่ำกว่า 35 ปีในภูมิภาคลาตินอเมริกาอีกด้วย
เดนิสได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว BBC บราซิลว่า หลังจากที่เธอได้ลองใช้ซิลิโคนอันนี้ ทำให้ชีวิตเป็นปกติมากขึ้น ไม่มีใครมองเธอด้วยสายตาที่แปลกๆอีกต่อไป นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการช่วยเหลือผู้ป่วยลักษณะนี้ ทางคณะแพทย์ยังคงพัฒนาและพยายามที่จะทำให้มันออกมาดูดีมากขึ้น แต่ถึงยังไง เท่านี้ เดนิส ก็มีความสุขมากๆ กับผลลัพธ์ของซิลิโคน 3D จากเครื่อง 3D Printing มากๆ แล้ว
ดร. โรดริกโก เองยังมีแผนที่จะเปิด Plus Identity ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรและศูนย์บำบัดสำหรับการทำศัลยกรรมใบหน้าซึ่งได้รับทุนจากมหาวิทยาลัย Paulista
มากไปกว่านั้น ดร.โรดริกโก ยังเชื่อว่าเครื่องพิมพ์ 3D จะสามารถผลิตผิวเทียมคุณภาพสูงได้ ซึ่งนั่นหมายความว่าผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องสูญเสียเนื้อบริเวณหน้าหรือคอจะได้รับการรักษาที่ดีขึ้น และยังเชื่ออีกว่าอัตราการฆ่าตัวตายจากผู้ป่วยโรคมะเร็งในบราซิลจะมีโอกาสที่ลดลงหากการรักษาและค่าใช้จ่ายมีราคาที่ถูกลง
เป็นเรื่องที่น่าติดตามว่าเทคโนโลยี 3D Printing จะสามารถมีบทบาทในด้านไหนอีกบ้างโดยเฉพาะทางการแพทย์ ประเทศไทยเองมีชื่อเสียงอยู่ไม่น้อยทางด้านการแพทย์ คงจะเป็นเรื่องที่น่าดีใจไม่น้อยเลยหากเทคโนโลยีการแพทย์ในประเทศไทยของเราจะสามารถสร้างจุดเปลี่ยนให้กับชีวิตผู้ป่วยได้เช่นกัน ต้องคอยติดตามกันต่อไปว่าจะมีเทคนิคอะไรที่น่าสนใจอีกบ้างค่ะสำหรับเทคโนโลยีการแพทย์
Source:
(1) https://rodrigosalazar.org/home/
(2) BBC Brazil
(3) Telegraph UK