ปัจจุบันนี้ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ COVID -19 เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดเทรนด์การทำงานรูปแบบใหม่อย่างการทำงานจากบ้าน (Work from home) หรือทำงานจากข้างนอกในระยะไกล (Remote working) ที่เริ่มมีบทบาทในองค์กรหรือบริษัทฯต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น โดยการทำงานอย่างยืดหยุ่น ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่จะช่วยให้พนักงานสามารถใช้ความคิดได้อย่างเต็มที่ ตลอดจนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

จากผลสำรวจปลายปี 2019 ที่ผ่านมาของ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย พบว่าไลฟสไตล์การทำงานของคนไทยในปี 2020 เป็นแบบ นินจา ซึ่งชี้ให้เห็นว่าคนปัจจุบันมีความสามารถในการทำงานให้เสร็จได้ด้วยตนเอง และยังสามารถให้เพื่อนร่วมงานมาช่วยกันทำผลงานให้เสร็จสมบูรณ์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นผ่านระบบการทำงานแบบดิจิทัล และในขณะเดียวกันผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจพื้นที่ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในการทำงานมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องการการเข้าถึงไฟล์งานส่วนตัวอันไม่พึงประสงค์จากบุคคลอื่น ซึ่งสอดคล้องไปกับเทรนด์การทำงานแบบ Work from Home ในปัจจุบัน นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าขณะนี้ผู้คนจะแยกกันทำงานจากคนละที่ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมายังคงมีประสิทธิภาพ และมีแนวโน้มว่าจะดียิ่งกว่าการนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศทั้งวัน

ทำงานแบบ ‘นินจา’

ผู้ที่มีไลฟสไตล์การทำงานแบบนินจา ส่วนใหญ่มักจะชอบทำงานในพื้นที่ส่วนตัวของตนเอง ชอบใช้ความคิดอย่างระมัดระวังและมีความรอบคอบ รวมไปถึงมักจะวางแผนล่วงหน้าและคาดการณ์ผลลัพธ์ออกมาในแง่บวกเสมอ ยิ่งในยุคปัจจุบัน กระบวนการทำงานต่าง ๆ เริ่มแปรผันเข้าสู่โลกแห่งยุคดิจิทัลมากขึ้น นินจาจึงยิ่งชอบที่จะซุ่มเงียบทำงานในที่ของตนเอง แต่ก็ไม่ปฏิเสธที่จะติดต่อกับโลกภายนอกเพื่อนำเสนอผลงานที่ดีที่สุด

เลือกเครื่องมือใช้งานให้เกิดประโยชน์

ปัจจุบันมีเครื่องที่มากมายที่อำนวยความสะดวกในการทำงานยุค Work From Home ซึ่งทำให้การทำงานราบรื่นและสื่อสารกันได้อย่างไม่ติดขัด ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง และเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับชีวิตผู้คนได้เป็นจำนวนมากอย่างแท้จริง อย่างเช่น

  • แอปแชท ที่ช่วยให้การติดต่อการทั้งวิดีโอคอล แชร์ไฟล์ พูดคุยกันได้สะดวกขึ้น
  • โปรแกรมการประชุมออนไลน์ที่รองรับการประชุมรวมกันในจำนวนมากๆ สร้างความสะดวกในการประชุมทีม
  • คลาวน์สำหรับแชร์ไฟล์ขนาดใหญ่ เพื่อให้เกิดส่งต่อกันอย่างง่ายดายเพียงใช้อินเทอร์เน็ต
  • เครื่องมือ Google ที่อำนวยความสะดวกการแก้ไขงานได้พร้อมๆ กัน

เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์อยู่กับว่าจะหยิบมาใช้ในมุมไหน ท่ามกลางการทำงานแบบไม่เจอหน้ากันในช่วงนี้ ถือได้ว่าเป็นโอกาสที่จะทำให้หลายๆ องค์กร บริษัท เรียนรู้ถึงการใช้งานเครื่องมือต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงตัวของพนักงานเองด้วยที่จะได้ปรับตัวให้ทันกับการทำงานยุคใหม่นี้