แม้จจะเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ทุกคนได้สนกุสนานแต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสิ่งที่จะเห็น TikTok มักนำเสนออยู่เสมอคือเรื่องของความปลอดภัย ล่าสุด TikTok ได้เผยรายงานสรุปแนวทางการพัฒนาด้านความปลอดภัยและความโปร่งใสประจำครึ่งปีแรกของปี 2563 หรือในชื่อ Transparency Report ซึ่งได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและมาตรการด้านความปลอดภัยของ TikTok ในตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา  ซึ่งในช่วงหกเดือนแรกของปี 2563 ได้มีการพัฒนาเรื่องความปลอดภัยในหลายๆ ด้าน โดยใน TikTok Transparency Report  ได้แก่

  • การเพิ่มขอบเขตแนวทางปฏิบัติสำหรับชุมชน ด้วยนโยบายใหม่ต่างๆ เพื่อจัดการกับการเผยแพร่ข้อมูลที่ผิดและข้อมูลที่มีการบิดเบือน
  • การเปิดตัวโปรแกรมตรวจสอบข้อเท็จจริง (fact-checking program) ใน 9 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, อังกฤษ, ออสเตรเลีย, ฝรั่งเศส, อิตาลี, สเปน, ญี่ปุ่น และอินเดีย เพื่อช่วยในการตรวจสอบเนื้อหาที่อาจทำให้เกิดการเข้าใจผิดเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่, การเลือกตั้ง และอื่นๆ ซึ่งมีแผนที่จะขยายพื้นที่ในการใช้โปรแกรมนี้ในประเทศอื่นๆ ต่อไป
  • การเพิ่มกิจกรรมที่เกี่ยวกับการให้ความรู้ทางการศึกษาบนแพลตฟอร์มและการสร้างสรรค์แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับประเด็นสำคัญในสังคม เช่น COVID-19, การเลือกตั้ง, Black Lives Matter และ QAnon เพื่อเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องเชื่อถือได้ให้กับผู้คน
  • การเปิดตัว Family Pairing หรือ โหมดแนะนำโดยผู้ปกครอง ซึ่งเป็นฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยสำหรับครอบครับ เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถเชื่อมต่อบัญชี TikTok ของตนเองกับบุตรหลานได้ เพื่อเข้าไปควบคุมดูแลในการเข้าถึงคอนเทนต์ของบุตรหลาน รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้แพลตฟอร์มของบุตรหลาน เช่น การตั้งค่า Screentime หรือ เวลาในการใช้แพลตฟอร์มให้กับบุตรหลาน
  • ความร่วมมือกับองค์กรความปลอดภัยชั้นนำระดับโลก อาทิ National Center for Missing and Exploited Children และ WePROTECT Global Alliance
  • ความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนา Machine Learning ในการจัดการกับ Hate Speech และความปลอดภัยของเยาวชนในด้านอื่นๆ

นอกจากนี้ในรายงานสรุปแนวทางการพัฒนาด้านความปลอดภัยและความโปร่งใสประจำครึ่งปีแรกของปี 2563 ยังได้เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการที่แพลตฟอร์ม TikTok ได้รับความนิยมและมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก จึงทำให้จำนวนคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นและพบว่ามีการลบวิดีโอที่มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและละเมิดแนวทางปฏิบัติสำหรับชุมชนออกจากระบบเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากปีก่อน ซึ่งในปีนี้พบว่า

  • ข้อมูลสรุปจากทั่วโลก มีจำนวนวิดีโอ 104,543,719 รายการที่ถูกลบออกจากระบบ

เนื่องจากมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและละเมิดแนวทางปฏิบัติสำหรับชุมชนของ TikTok ซึ่งจากจำนวนนี้ ถือเป็นจำนวนที่น้อยกว่า 1% ของจำนวนวิดีโอทั้งหมดที่อัปโหลดบน TikTok

  • อีกทั้งพบว่า 96.4% ของวิดีโอที่ถูกลบทั้งหมด ได้ถูก TikTok ค้นพบและลบออกก่อนที่จะมีผู้ใช้รายงาน และยังพบว่า 90.3% ของวิดีโอที่ถูกลบ ได้ถูกลบออกจากระบบก่อนที่จะมีการเข้าชมใดๆ

และล่าสุดเพื่อตอกย้ำว่า TikTok ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะยกระดับมาตรการด้านความปลอดภัยบนแพลตฟอร์ม จึงได้มีการจัดตั้ง APAC Safety Advisory Council หรือ ที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยแห่งเอเชียแปซิฟิก เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับนโยบายการกลั่นกรองเนื้อหาและปัญหาด้านความปลอดภัยที่เฉพาะเจาะจงสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยสมาชิกสภา APAC Safety Advisory Council จะทำหน้าที่ในการคาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นใหม่ในภูมิภาคที่อาจส่งผลกระทบต่อแพลตฟอร์มและผู้ใช้ เพื่อพัฒนาแนวทางและกลยุทธ์ในการจัดการกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต