ชายอเมริกันรัฐนิวเจอร์ซีย์ ฟ้องกลับสภาเมืองและตำรวจเมือง Woodbridge หลังจากที่เขาถูกจับผิดตัวในข้อหาลักขโมย เนื่องจากระบบ Facial Recognition ทำงานผิดพลาดทำให้เกิดการจับคนร้ายผิดคน
ชายคนนี้มีชื่อว่า Nijeer Parks เขาถูกจับในข้อหาขโมยของในร้านค้าเมื่อเดือนมกราคมปี 2019 ส่งผลให้เขาต้องโทษจำคุก 10 วัน
เหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับสายจากพนักงานโรงแรม Hampton Inn ในเมือง Woodbridge ว่ามีการขโมยของในร้านค้าเกิดขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงจึงได้เข้าไปขอดูหลักฐานยืนยันตัวตน ซึ่งคนร้ายก็โชว์ใบขับขี่ชื่อว่า Jamal Owens เมื่อนำไปตรวจสอบกับคอมพิเตอร์ในรถก็พบว่าเป็นของปลอม ขระที่กำลังจะเข้าจับกุมแต่ผู้ร้ายก็ได้หนีไปก่อนทางประตูหลัง กระโดดขึ้นรถ ชนรถตำรวจก่อนจะขับหนีออกไป
หลังวันเกิดเหตุทางหน่วยงานรัฐจึงได้เข้าถึงระบบ facial recognition เพื่อทำการวิเคราะห์รูปถ่าย ซึ่งก็ตรงกับภาพ Nijeer Parks จากนั้นก็มีการออกหมายจับทันทีถึง 3 ข้อหาคือ ลักทรัพย์ ปลอมแปลงเอกสารราชการและฝ่าฝืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่ซึ่งหากเขาถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง อาจจะต้องโทษจำคุกอย่างต่ำ 6 ปี
Parks ยืนยันว่าไม่เคยขับรถไปที่เมือง Woodbridge เลย เพราะช่วงนั้นเขายังไม่มีทั้งรถยนต์และใบขับขี่ แต่ตำรวจไม่ฟังข้อแก้ต่างของเขาพร้อมจับเขาเข้าคุกโดยที่ไม่มีการตรวจลายนิ้วมือและ DNA ในสถานที่เกิดเหตุด้วยซ้ำ ตำรวจใช้หลักฐานที่เป็นซอฟท์แวร์ Facial Recognition เพียงอย่างเดียว ส่งผลให้ปีนั้นเขาต้องใช้เงินไปมากถึง 7,500 ดอลลาร์เพื่อแก้ต่างและยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง
หลังจากขึ้นศาล 3-4 ครั้ง ทางผู้พิพากษาได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหาหลักฐานอื่นเพิ่มเติม นอกจากการใช้ facial recognition เพียงอย่างเดียว หลังจากนั้นไม่กี่เดือนเขากHได้รับจดหมายจากอัยการว่าคดีนี้มีการจับผิดคนเกิดขึ้น นั่นจึงทำให้เกิดการฟ้องร้องกลับขึ้นมา