นี่คืออีกหนึ่งทรรศนะที่น่าสนใจจาก Facebook เพจ ประเทศไทยต้องชนะ ที่เขียนขึ้นโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ เอกพงษ์ ตรีตรง อดีตคณบดี คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ในหัวข้อ “ประเทศไทยจะบูมหลังโควิด” 

หลังจากที่มีการเผยแพร่บทความนี้ออกไปในเวลาแค่ 1 วันมีคนแชร์บทความนี้ต่อมากกว่า 7,5oo ครั้งแล้ว ซึ่งทาง Dailygizmo ได้ลองสรุปใจความสำคัญเอาไว้ ว่าทำไมไทยถึงจะได้รับความนิยมขึ้นหลังจบ COVID-19

ความพร้อมของระบบสาธารณะสุข

หากมองตัวเลขการควบคุมผู้ติดเชื้อในไทยถือว่ามีอัตราที่ต่ำกว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้ นั่นแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมทั้งในเรื่องของระบบการแพทย์และการพยาบาลที่อยู่ระดับแถวหน้าๆ จะเห็นว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไทยเองถือเป็นจุดหมายของ Medical Tourism มีโรงพยาบาลหลายแห่งที่ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า

นั่นจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เหล่านักลงทุนต่างชาติต่างเห็นตรงกันว่า ประเทศไทยมีตวามปลอดภัยสูง ทำให้เหล่าเศรษฐีต่างชาติ รวมถึงผู้สูงอายุจากหลายประเทศ ตัดสินใจย้ายที่พำนักมาอยู่ในประเทศที่มีระบบการดูแลรักษา ระบบการแพทย์และการพยาบาลที่ดีที่สุด

การขยายความเจริญไปสู่เมืองใหม่

การขยายตัวของเมืองเพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจจากคนรวยและเก่งจากทั่วโลกจะเกิดขึ้นในทุกภูมิภาคของไทย เนื่องจากปัจจัยเสริมหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น การเป็นประเทศเกษตรกรรม มีระบบการจัดการอาหารที่ครบวงจร ช่วยให้เราสามารถพึ่งพาตัวเองได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาประเทศอื่นซึ่งทำให้ไทยได้รับการขนานนามว่าเป็นดินแดนอาหารและครัวของโลก

สภาพอากาศที่ดี ต่อการอยู่อาศัย อากาศร้อนเป็นผลดี เพราะทำให้สถิติการแพร่เชื้อในลักษณะอากาศแบบนี้น้อย ระบบสมาร์ทฟาร์ม. ระบบการออกแบบบ้านที่มีระบบการอยู่และสร้างนวัตกรรมในครัวเรือน สามารถสร้างสรรค์ใด้ดีในประเทศ

ในส่วนของระบบเศรษฐกิจเอง บอกได้เลยว่าค่าครองชีพในไทยถือว่าไม่สูงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น สภาพสังคมไม่สลับซับซ้อนยุ่งยาก แถมยังมีแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชการที่ 9 ที่ทำให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

คนไทยเองมีความเป็นป็นมิตรสูงเป็นผลบวกต่อการต้อนรับสิ่งดีดีจากทั้งโลก นั่นทำให้ ไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางแนวคิดที่จะมีคนในโลกเข้ามาศึกษาและต่อยอดสู่นวัตกรรมแห่งการอยู่ ยั่งยืนและปลอดภัย

กฏหมายที่เปิดเอื้อการลงทุนจากต่างชาติ

กฎหมายไทยนั้นส่งเสริมให้มีการลงทุนจากต่างชาติ ไม่ยุ่งยากเมื่อเทียบกับหลายประเทศ ทำให้ต่างชาติกล้าเข้ามาลงทุน ทำให้เกิดโครงการมากมายที่ส่งผลดีต่อประเทศ

ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เอกพงษ์ ตรีตรงได้เสนอแนวความคิดต่อรัฐบาล เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับประเทศไทยดังนี้

  • ควรมีระบบการบริหารจัดการในการสร้างเมืองเซฟโซน เมืองปลอดภัย เมืองไร้โรค เมืองใหม่ๆ กระจายตัวอยู่ในประเทศทุกจังหวัด
  • สนับสนุนให้เกิดการยกร่างกฏหมายใหม่ๆ ที่ให้โควต้า คนเก่งจากต่างชาติและมีงบประมาณ ในการร่วมพัฒนาประเทศกับคนไทย มุ่งเน้นการพัฒนาร่วมเฉพาะผู้มีศักยภาพจากทั้งโลกมาร่วมกันลงทุน อันจะมีเงินหมุนเวียนมหาศาล จากเงินทั้งโลก และถือเป็นการยกระดับประเทศไปพร้อมกันสู่ประเทศพัฒนาแล้ว
  • รัฐบาลควร จัดให้มีระบบการจัดการ ในช่วงเวลานี้ทั้งระบบ ที่วางแผนเตรียมการในการระดมทุนจากโพ้นทะเล ควรมีการนำเสนอภาพลักษณ์เชิงความน่าลงทุนและศักยภาพที่ดีสู่สายตาชาวโลกตั้งแต่เนิ่นๆ
  • ควรนำเสนอวิธีการใหม่ๆในการแถลงการณ์ที่ทำให้คนไทยมีกำลังใจ ไม่ใช่ดูแล้วหดหู่
  • แนะนำให้เศรษฐีในไทยที่มีศักยภาพเร่งการลงทุนต่างๆที่มีผลต่อการสร้างงาน สร้างรายใด้ โดยเฉพาะการสนับสนุนให้เกิดการกระจายการสร้างเมือง ที่ให้คนไทยใด้มีพื้นที่อยู่สบาย และการเลือกคนต่างชาติที่มีศักยภาพร่วมกันพัฒนาประเทศไปพร้อมกัน จริงๆแล้วไม่ใช่แค่เศรษฐี 20 ตระกูล แต่ควรหมายถึงศักยภาพของคนที่มีสายป่านทั้งหมด ที่ทุกคนต่างมีความสำเร็จในแผ่นดินนี้
  • ควรใช้เวลานี้ยกระดับ ทรัพยากรของชาติ ให้มีคุณค่ามากขึ้น ส่งเสริมระบบเอสเอ็มอีไทยให้เข้มแข็งด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ปัญญาประดิษฐ
  • ส่งเสริมให้ธุรกิจเล็กๆรากหญ้าเข้าสู่ระบบการจัดการเพื่อประกันความเสี่ยง เมื่อเกิดสภาวะวิกฤติสามารถมีระบบจ่ายเงินชดเชยใด้ทุกคน
  • ส่งเสริมให้เกิดการออมของประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นคงระยะยาวให้มากที่สุด
  • ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าสู่แรงงานเสถียร. ระบบแรงงานสำนักงานที่มีระบบประกันสังคม ให้มากที่สุด
  • ส่งเสริมให้เกิดการสร้างพลังกับนายจ้างคุณภาพ ที่มีระบบให้เกิดความมั่นคง มีรากฐานดีทั้งระบบ
  • รัฐบาลควรมีกลไกส่งเสริมให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งทั้งระบบ และสนับสนุนเขาให้ลุกขึ้นเดินใด้จากแพลทฟอร์มโครงสร้างที่ยอดเยี่ยมของสังคม!!!
  • ส่งเสริมให้คนในชนบท มีบ้านที่น่าอยู่ มีวงจรอาหารและการดำรงค์ชีพที่แม้มีวิกฤติก็ไม่เดือดร้อน มีระบบพึ่งพาตัวเอง เช่น มีบ่อเลี้ยงปลา การเพาะพันธ์อาหาร ปลูกพืช ปลูกยาสมุนไพร ระบบการจัดการพลังงานพื้นฐาน และการอยู่อาศัยที่ไม่ต้องใช้เงินตราเป็นหลัก ก็สามารถอยู่ใด้อย่างมีความสุข และอาจต่อยอดสู่ การพัฒนาในผลิตภัณฑ์เอสเอ็มอีใด้ด้วย

ใครสนใจสามารถเข้าไปอ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ เพจ ประเทศไทยต้องชนะ