ไม่น่าเชื่อว่า จากจินตนาการในภาพยนตร์ Congo ที่กอริลล่าในเรื่องได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ให้สื่อสารด้วยเสียงมนุษย์ กำลังจะกลายเป็นจริงแล้วด้วย No-More-Woof อุปกรณ์ที่สามารถแปลความคิด”น้องหมา”เป็นเสียงพูดที่คนฟังรู้เรื่อง 😀

ในขณะที่มนุษย์โลกพยายามจะสื่อสารกันด้วยภาษาที่หลากหลายเชื่อชาติ และวัฒนธรรม แต่นอกจากมนุษย์ด้วยกันแล้ว เรายังมีน้องหมา เพื่อนรักแสนรู้ผู้ซื่อสัตย์ ที่อยู่ใกล้ชิดเรา ซึ่งบ่อยครั้งที่พวกเขามองหน้าเราแล้วเหมือนจะบอกอะไรที่อยู่ในใจ แต่ก็ทำได้แค่แสดงท่าทาง สายตาที่เว้าวอน กับเสียงเห่าหอนอ้อนออดไปตามอารมณ์ เจ้าของอย่างเราก็ต้องตีความจากการแสดงออกทั้งหมดนี้ เพื่อประเมินว่า น้องหมาของเราต้องการอะไรกันแน่ คงจะดีไม่น้อย หากเราจะสามารถรู้ได้ว่า น้องหมากำลังคิดอะไรอยู่ภายใต้แววตาใสซื่อคู่นั้น ล่าสุดทีมนักพัฒนาชาวสวีเดนได้สร้าง No More Woof อุปกรณ์สวมหัว (headset) ที่ทางทีมงานอ้างว่า มันสามารถแปลความคิดของน้องหมาให้ออกมาเป็นภาษาพูดที่มนุษย์เข้าใจได้ โดยนักพัฒนาได้อธิบายการทำงานของเครื่องแปลความคิดสุนัขว่า มันจะคล้ายๆ กับการทำงานของครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (Electroencephalogram (EEG)) จะแตกต่างกันตรงที่เครื่องนี้พัฒนาขึ้นมา เพื่อใช้อ่านคลื่นสมองของสุนัขแทนที่จะเป็นสมองมนุษย์

นอกจาก No More Woof จะประกอบด้วยส่วนที่เป็นเครื่องตรวจคลื่นสมองสุนัขแล้ว มันยังใช้ชิปเซตยอดนิยมสำหรับการพัฒนาโครงการอิเล็กทรอนิกส์วันนี้อย่าง  Arduino อีกด้วย ซึ่งทำหน้าที่ประมวลผลการทำงาน โดยในแต่ละครั้งที่สุนัขเกิดความคิด คลื่นสมองจะถูกอ่านขึ้นมา เพื่อทำการวิเคราะห์ และเลือกไฟล์เสียงที่ตรงกันกับคลื่นความคิดในสมองของน้องหมา แล้วเล่นออกมาให้ได้ยินด้วยลำโพงที่อยู่บนเฮดเซท ซึ่งจะทำให้เราได้ยินเสียงพูดความคิดของน้องหมาเป็นภาษามนุษย์ที่เราเข้าใจได้นั่นเอง No More Woof เป็นโปรเจ็กต์ระดมทุนอยู่บนเว็บไซต์ Indiegogo.com โดยเพื่อนๆ สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ตลอดจนสนับสนุนโครงการนี้ ส่วนตัวซีแล้ว ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่า ถ้าวันหนึ่งเจ้า PC ของซี มันพูดได้ขึ้นมาด้วยอุปกรณ์พวกนี้ เราจะรู้สึกยังไง? ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ เราจะเชื่อได้ไงล่ะว่า สิ่งที่ No More Woof แปลความคิด และส่งเสียงออกมานั้นจะถูกต้อง? แล้วเพื่อนๆ ล่ะคะ อยากให้น้องหมาที่เลี้ยงอยู่บอกความในใจ หรือสิ่งที่พวกเขาคิดให้ได้ยินด้วยวิธีนี้ไหม?


via No More Woof