บริษัท โซเชียลแล็บ จำกัด ร่วมด้วย ดีป้า ธนาคารกรุงไทย และ GAX จับมือสำนักบริหารงานวิจัยและนวัตกรรมพระจอมเกล้าลาดกระบัง และหน่วยงานพันธมิตร ดันสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการเทครุ่นใหม่โชว์ศักยภาพด้านเทคโนโลยีภายใต้ Thailand Pavilion ในงานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง CES ณ ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา
ยกทัพสตาร์ทอัพไทยโชว์ศักยภาพบนเวทีโลก CES 2020
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ธนาคารกรุงไทย GAX บริษัท โซเชียล แล็บ จำกัด สำนักบริหารงานวิจัยและนวัตกรรมพระจอมเกล้าลาดกระบัง ผนึกกำลังจัดงานแสดงผลงานของสตาร์ทอัพและกิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่ายแลกเปลี่ยนความรู้ (Thailand Pavilion Alumni Experience Sharing and Demo Day) พร้อมประกาศความพร้อมติดสปีดอุตสาหกรรมดิจิทัล เดินหน้าผลักดันนวัตกรรมไทยให้ตอบโจทย์ธุรกิจสู่เวทีโลก Thailand Pavilion Alumni Experience Sharing and Demo Day โดยแสดงผลงานของ 7 สตาร์ทอัพที่ได้ไปโชว์ในงานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก หรือ CES 2020 ครั้งแรกของประเทศ
ผู้บริหาร Sociallab ชี้ ปีนี้ CES แตกต่างจากเดิมเพราะมี “ศาลาไทย”
“ซี” ฉัตรปวีณ์ ตรีชัชวาลวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซเชียลแล็บ จำกัด กล่าวว่า งาน CES 2020 ที่ผ่านมา แตกต่างจากปีก่อน ๆ เพราะเป็นปีแรกของประเทศไทยที่มีการจัดศาลาไทย (Thailand Pavilion) ภายใต้แนวคิด Made in Thailand นำนวัตกรรม เทคโนโลยี และซอฟต์แวร์ที่สร้างสรรค์จากสตาร์ทอัพชั้นนำของไทยออกไปสู่เวทีโลก ย้ำให้เห็นว่าไทยก็สามารถผลิตนวัตกรรมได้ และเกิดขึ้นจริงแล้ว ปรากฎการณ์ครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของ Gadget Accelerator หรือ GAX เครือข่ายผู้เชี่ยวชาญจากวงการสื่อ นักประดิษฐ์ ออกแบบ และผลิต ช่วยเตรียมความพร้อมและบ่มเพาะสตาร์ทอัพ รวมถึงผู้สนับสนุนจากทั้งภาครัฐ และเอกชน งานนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของสตาร์ทอัพไทยที่จะได้เรียนรู้ เข้าใจเทรนด์โลกเทคโนโลยีแห่งอนาคต พัฒนาช่องทางขยายตลาด และสร้างเครือข่ายกับพันธมิตรต่างประเทศ
สตาร์ทอัพไทย 7 รายได้รับการตอบรับดี!
ผศ.ดร. รัชนี กุลยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานวิจัยและนวัตกรรมพระจอมเกล้าลาดกระบัง (KRIS) กล่าวว่า “ศาลาไทยและสตาร์ทอัพทั้ง 7 รายได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เกิดการจับคู่ทางธุรกิจ การแลกเปลี่ยนนามบัตรกับนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงได้รับการทาบทามให้ไปจัดแสดงผลงานเพิ่มอีกในหลายประเทศ เรียกได้ว่าการออกสู่ตลาดโลกในครั้งนี้เป็นทั้ง inside out และ outside in ที่สามารถนำประสบการณ์และองค์ความรู้มาพัฒนานวัตกรรมแบบเปิดให้พร้อมต่อยอดเชิงพาณิชย์ในอนาคต
โดยสตาร์ทอัพชั้นนำ 7 ราย ประกอบด้วย
1. HG Robotics: พัฒนาโดรนพ่นยาฆ่าแมลง ลดปัญหาสุขภาพของเกษตรที่ต้องสัมผัสสารเคมี
2. Obodroid Corperation: พัฒนาหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยภายในบ้าน/อาคาร ทำหน้าที่เป็น รปภ. คอยตรวจจับ รายงานสถานการณ์ผิดปกติ และติดตามเป้าหมาย
3. Lumio 3D: Tech Startup รายแรกและรายเดียวในประเทศที่เครื่องสแกนสามมิติที่มีความละเอียดสูง สามารถสแกนได้ทั้งโลหะ พลาสติก หรือกระจก
4. Petaneer: นวัตกรรมเพื่อสัตว์เลี้ยงอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นวีลแชร์สำหรับสัตว์พิการที่สามารถปรับระดับได้ ลู่วิ่งในน้ำควบคุมผ่านแท็บแล็ต ช่วยให้การทำกายภาพบำบัดของสัตว์เลี้ยงเป็นเรื่องง่าย
5. D-N-A-Coding: Health Startup ตอบรับกระแสรักสุขภาพด้วยการตรวจสอบอาการแพ้อาหาร 800 ชนิดด้วยเส้นผม ไม่จำเป็นต้องเจาะเลือดให้เจ็บตัว
6. Panacura: อีกหนึ่ง Health Startup ผู้พัฒนากระบวนการตรวจสอบไตเพื่อป้องกันโรคไตวายเฉียบพลันด้วย AKI Rapid Test Strip เพียงแค่ 2 ชั่วโมงก็รู้ผล แถมยังมีขนาดเล็กง่ายต่อการพกพา
7. ZaneGrowth: บริษัทโซลูชั่นด้านสมาร์ทลีฟวิ่ง เสนอแพลตฟอร์ม Aiderycare สำหรับผู้สูงอายุ และผู้ป่วย