ใครที่ใช้บริการแกร็บอยู่แล้วจะทราบเป็นอย่างดีว่าแกร็บมีบริการหลากหลายที่มาตอบโจทย์ผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก ล่าสุด แกร็บเดินหน้าลุยฟินเทคหวังตอบสนองความต้องการผู้บริโภค หลังในปี 62 เปิดให้บริการ แกร็บเพย์ วอลเล็ต ในไทย  ที่ใครหลายๆ คนก็ใช้งานเพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยในการชำระเงินบนอีโคซิสเต็มของแกร็บ โดยมียอดการใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 7 เท่า สะท้อนถึงการชำระเงินแบบไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบ

ปี 63 แกร็บ ไฟแนนเชียลรุกฟินเทค

Grab finance

ในปี 63 แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป จะเดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้และพาร์ทเนอร์อย่างเต็มรูปแบบยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้ชีวิต และผลิตภัณฑ์ประกันที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ โดยมีระบบการชำระเงินของแกร็บเพย์ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน 

Grab ให้บริการสินเชื่อดิจิทัลที่ใช้ข้อมูลขับเคลื่อน

Grab financeแกร็บ ไฟแนนซ์ ธุรกิจสินเชื่อภายใต้แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อดิจิทัลแบบครบวงจรรายแรกในประเทศไทยที่ใช้ข้อมูลในการขับเคลื่อน รวมถึงออกแบบโมเดลวิเคราะห์เครดิต ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลัง โดยมี 3 ผลิตภัณฑ์ด้วยกัน

 3 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ จาก Grab

Grab lender

  • สินเชื่อเงินสดผ่านแอป – เป็นสินเชื่อเพื่อการประกอบอาชีพ แบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่สามารถขอสินเชื่อได้อย่างสะดวกและรวดเร็วผ่านแอปพลิเคชัน

Grab finance

  • บริการผ่อนชำระสินค้ารายวัน  – บริการผ่อนชำระโทรศัพท์มือถือและเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบรายวัน ดอกเบี้ย 0% สำหรับพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่

Grab finence

  • สินเชื่อ SMEs  – สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย ระยะสั้น ดอกเบี้ยต่ำ สำหรับเพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ

ตั้งเป้าปี 63 ยอดสินเชื่อ 3 พันลบ.

Grab finance

โครงสร้างพื้นฐานที่มีความพร้อม ควบคู่ไปกับแผนการขยายฐานการให้บริการของแกร็บจาก 20 จังหวัดเป็น 30 จังหวัดภายในปี 2563 เราจึงตั้งเป้ายอดสินเชื่อใหม่ทั้งหมดของแกร็บ ไฟแนนซ์ ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท พร้อมส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการรายย่อยของไทยกว่า 100,000 ครัวเรือน

ทั้งนี้ นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการ แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ประเทศไทย เชื่อมั่นว่า ฟินเทคโซลูชันครบวงจรของแกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป จะไม่เพียงแค่เติมเต็มอีโคซิสเต็มของแกร็บให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น แต่ยังเป็นอีกแรงขับเคลื่อนในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยผ่านการเข้าถึงบริการทางการเงินอีกด้วย