Armageddon ของจริง! นาซ่า ส่งยานอวกาศ เดอะดาร์ท พุ่งเข้าชนดาวเคราะห์น้อย เปลี่ยนวิถีไม่ให้ชนโลก

นาซ่าส่งยานอวกาศ “เดอะ ดาร์ท” ไปบนจรวด SpaceX Falcon 9  ที่ฐานทัพอวกาศแวนเดนเบิร์กในแคลิฟอร์เนีย เป้าหมายหลักคือส่งยานอวกาศดาร์ทพุ้งเข้าชนดาวเคราห์น้อยคู่ ในลักษณะที่สามารถวัดได้อย่างแม่นยำโดยใช้กล้องโทรทรรศน์ภาคพื้นดิน เพื่อต้องการเปลี่ยนวิถีวงโคจรดาวเคราะห์น้อยไดมอร์ฟอส ซึ่งเป็นดวงจันทร์ขนาดเล็ก(moonlet) มีเส้นผ่านศูนย์กว้าง 250 ฟุต (160 เมตร) หรือคิดเป็น 2 เท่าของอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพสหรัฐฯ ส่วนการเดินทางจะใช้ระยะเวลา 10 เดือน เป็นระยะทาง 6.8 ล้านไมล์ห่างจากโลก

ยานอวกาศจะสกัดกั้นดาวเคราะห์น้อยไดมอร์ฟอส ระหว่างวันที่ 26 กันยายนถึงวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2565 โดยตั้งใจจะกระแทกด้วยความเร็วประมาณ 4 ไมล์ต่อวินาที (6 กิโลเมตรต่อวินาที) นักวิทยาศาสตร์ประเมินว่าผลกระทบทางจลนศาสตร์จะทำให้วงโคจรของ Dimorphos รอบ Didymos สั้นลงหลายนาที นักวิจัยจะวัดการเปลี่ยนแปลงนั้นได้อย่างแม่นยำโดยใช้กล้องโทรทรรศน์บนโลก ผลลัพธ์ของพวกเขาจะตรวจสอบและปรับปรุงแบบจำลองคอมพิวเตอร์ทางวิทยาศาสตร์ที่มีความสำคัญต่อการทำนายประสิทธิภาพของผลกระทบจลนศาสตร์ซึ่งเป็นวิธีการที่เชื่อถือได้สำหรับการโก่งตัวของดาวเคราะห์น้อย

บิล เนลสัน ผู้ดูแลระบบของ NASA กล่าว “นอกเหนือจากทุกวิธีที่ NASA ศึกษาจักรวาลและดาวเคราะห์บ้านเกิดของเรา เรายังทำงานเพื่อปกป้องบ้านนั้นด้วย และการทดสอบนี้จะช่วยพิสูจน์ให้เห็นวิธีหนึ่งที่เป็นไปได้ในการปกป้องโลกของเราจากดาวเคราะห์น้อยที่เป็นอันตราย หากมีการค้นพบว่า กำลังมุ่งหน้าสู่โลก”

การทดสอบเพื่ออนาคต

อย่างไรก็ตามดาวเคราะห์น้อยเป้าหมายของการปล่อยยานอวกาศดาร์ทตามข่าวนี้ แท้จริงแล้วไม่ได้มีผลกระทบต่อโลกมากนัก และแทบจะเทียบไม่ได้เลยกับดาวแอสเตอรอยด์ ที่เป็นสาเหตุทำให้การทดสอบ เพื่อป้องกันเมื่อราว 66 ล้านปีก่อน แต่นักวิทยาศาสตร์ ยืนยันว่า ดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดเล็กกว่านั้นเป็นสิ่งที่สามารถพบได้ง่ายกว่าและจะเป็นอันตรายในทางทฤษฎีได้มากกว่าในระยะอันใกล้

ผู้ดูแลระบบร่วม ที่สำนักงานใหญ่ NASA ในกรุงวอชิงตัน กล่าวว่า “แก่นแท้ของ DART คือภารกิจของการเตรียมพร้อม และยังเป็นภารกิจแห่งความสามัคคีอีกด้วย “ความร่วมมือระหว่างประเทศนี้เกี่ยวข้องกับ DART, LICIACube ของ ASI และทีมสืบสวนและวิทยาศาสตร์ของ Hera ของ ESA ซึ่งจะติดตามภารกิจด้านอวกาศที่ก้าวล้ำนี้”

ลินด์ลีย์ จอห์นสัน เจ้าหน้าที่ป้องกันดาวเคราะห์ที่สำนักงานใหญ่ของ NASA กล่าวอีกว่า “DART เป็นหนึ่งในงานของ NASA ในการเตรียมโลกหากเราต้องเผชิญกับอันตรายจากดาวเคราะห์น้อย ตอนนี้เรากำลังเตรียมภารกิจควบคู่กันไปด้วยคือ Near-Earth Object Surveyor Mission ซึ่งเป็นกล้องโทรทรรศน์อินฟราเรดบนอวกาศ ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสามารถของเราในการค้นหาดาวเคราะห์น้อยและดาวหางที่อาจเป็นอันตรายซึ่งอยู่ภายในระยะ 30 ล้าน ไมล์จากวงโคจรของโลก”

Andy Cheng หนึ่งในทีมสืบสวนสอบสวนของ DART ที่ Johns Hopkins APL และบุคคลที่มากล่าวว่า “มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกที่ได้เห็นบางสิ่งที่คุณมีส่วนร่วมตั้งแต่เวที ‘words on paper’ กลายเป็นความจริงและปล่อยสู่อวกาศ” ขึ้นกับแนวคิดของ DART “นี่เป็นเพียงจุดสิ้นสุดของภาคแรก

ที่มา: NASA