ไม่ใช่แค่ภาคธุรกิจที่ต้องปรับตัวจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แม้แต่ภาครัฐเองก็ต้องเร่งปรับตัวเช่นกัน เพื่อให้บริการกับประชาชนได้ดียิ่งขึ้น
หนึ่งในอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงเร็วมากคือ อุตสาหกรรมการเงิน ที่เราเห็นบริการใหม่เกิดขึ้นมากมาย รวมถึงกระแสเงินสกุลดิจิทัลที่มาแรงมากทำให้ทุกฝ่ายต้องเร่งปรับตัวรับมือกับนวัตกรรมการเงินที่เราอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน
ทางกระทรวงการคลังถือเป็นหน่วยงานรัฐที่มีบทบาทสำคัญด้านเศรษฐกิจ จึงต้องเร่งปรับตัวให้ทัน หนึ่งในนั้นคือ ความพยายามในการผลักดันให้ข้าราชการและคนในองค์กรได้มีส่วนร่วม สามารถแสดงความคิดสร้างสรรค์ด้านนวัตกรรม เอาเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีขึ้น บริการประชาชนได้ดีขึ้น ช่วยลดต้นทุนและเวลาในการทำงาน รวมถึงเป็นกลไกสำคัญในช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0
จนเกิดเป็นโครงการประกวดรางวัลเพชรวายุภักษ์ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 8 แล้ว โดยเปิดกว้างเรื่องของไอเดียเลยค่ะ ขอแค่เป็นนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้จริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเงินการคลัง ภาษีอากร ตลอดจนไปถึงช่วย เพิ่มประสิทธิภาพและสนับสนุนการทำงานให้ดีขึ้น
ปีนี้มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวด 68 ผลงาน โดยแบ่งเป็นผลงานจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งหน่วยงานระดับกรมหรือเทียบเท่า, หน่วยงานระดับสำนัก กอง หรือเทียบเท่าและประเภทบุคคล โดยได้จัดพิธีมอบรางวัลเพชรวายุภักษ์ ครั้งที่ 8 ประจำปี 2564 นี้ จัดขึ้น เมื่อวันพุธที่ 1 ธันวาคม 2564 ณ ห้องออดิทอเรียม อาคาร ทรู ดิจิทัล พาร์ค โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายพิพัฒน์ชัย ภัครัชตานนท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายวารุจ ศิริวัฒน์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง พร้อมทั้งคณะผู้บริหารระดับสูงและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังร่วมเป็นเกียรติในพิธี
ปีนี้มีผลงานที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกและได้รับรางวัลเพชรวายุภักษ์ ครั้งที่ 8 ประจำปี 2564จำนวนทั้งสิ้น 24 ผลงาน น่าสนใจหลายรางวัลเลยค่ะ เช่น
- “วอลเล็ต สบม.” ที่เปิดให้ประชาชนสามารถลงทุนซื้อพันธบัตรรัฐบาลได้ง่ายขึ้น ผ่านแอปเป๋าตัง ส่งเสริมให้คนไทยสร้างนิสัยการออม
- e-Stamp Duty ช่วยให้การชำระอากรแสตมป์เป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปติดอากรแสตมป์แบบเดิม
- D-Section 12 ระบบออกคำสั่งตามมาตรา 12 แห่งประมวลรัษฎากรโดย กรมสรรพากร
- การพัฒนาแบบจำลองการบริหารความเสี่ยงหนี้สาธารณะเพื่อใช้ในสำนักงาน (In-house Risk Model for Public Debt Management)
- การพัฒนาเครื่องมือการติดตามภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคด้วยวิทยาการสมัยใหม่ : ข้อมูลดาวเทียม (Satellite data) ข้อมูลภูมิสารสนเทศ (Geoinformatics) การบันทึกข้อมูลจากเว็บเพจ
- ระบบราคาอ้างอิงอัจฉริยะ AI (Artificial Intelligence – Reference Price System)
- การยื่นขอรับเงินสวัสดิการและค่าตอบแทนภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์
- ระบบเข้าถึงแหล่งเงินทุนกระทรวงการคลัง (MOF Funding System)
โครงการนี้เรียกว่าได้ประโยชน์หลายต่อ นอกจากจะมีการพัฒนาบริการใหม่ๆที่ตอบโจทย์ ตรงกับที่ประชาชนและบุคลากรในองค์กรต้องการแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้บุคลากรได้แสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ พัฒนาทรัพยากรบุคคลภายในองค์กรที่จะเป็นกำลังสำคัญ ยกระดับการดำเนินงาน ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางความคิดเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและประเทศอย่างยั่งยืน