เกิดเหตุโดรนส่งของตกในโรงเรียนที่สวิตเซอร์แลนด์ ส่งผลให้ทาง Swiss Post และ Matternet ประกาศหยุดใช้งานโดรนขนส่งอัตโนมัติที่ไม่มีคนบังคับ

เรียกว่าเป็นกรณีศึกษาครั้งใหญ่ เมื่อเกิดอุบัติเหตุโดรนขนส่งสินค้าตกที่สวิตเซอร์แลนด์ แถมยังไปตกในสถานรับเลี้ยงเด็กแต่เคราะห์ดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงทำให้เกิดกระแสความเป็นห่วงเรื่องการใช้โดรนอัตโนมัติขึ้นมา

โดรนขนส่งสินค้าลำนี้ดำเนินการโดย Matternet ซึ่งเป็นพันธมิตรกับ Swiss Post (ไปรษณีย์ของสวิตเซอร์แลนด์) ซึ่งนำมาใช้ขนส่งตัวอย่างจากห้องทดลองจากศูนย์สุขภาพแห่งนึง แต่จะใช้เฉพาะกับเคสที่มีความสำคัญๆเท่านั้น แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือโดรนลำนี้ตกมาเป็นครั้งที่สองแล้ว ครั้งแรกตกเมื่อตอนที่กำลังจะร่อนลง แต่ครั้งที่สองดูเหมือนจะหนักกว่าครั้งแรก

การตกครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม มีสาเหตุมาจากอุปกรณ์ GPS ทำงานผิดผลาด ทำให้ตัวเครื่องอยู่นอกเหนือการควบคุม แต่เคราะห์ดีที่ร่มชูชีพกางออก จึงทำให้เครื่องร่อนลงสู่พื้นดินอย่างช้าๆ ซึ่งเค้าก็นำความผิดพลาดมาปรับปรุงการทำงานของ GPS ให้ดีขึ้น

ส่วนการตกครั้งที่สองเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม โดรนเองก็พยายามสั่งให้ร่มชูชีพกางออกแต่ระบบเกิดความล้มเหลว ทำให้ตกมาแรงกว่า ที่น่ากลัวกว่าก็คือจุดที่ตกนั้นอยู่ใกล้สถานรับเลี้ยงเด็กแค่ 45 เมตรเท่านั้น แต่โชคดีที่ไม่หล่นมาโดนใคร ไม่งั้นสถานการณ์จะย่ำแย่ขึ้น เคสหลังนั้นเพิ่งมีการปล่อยข่าวออกมาเมื่อเดือนที่แล้ว จึงไม่ได้มีรายงานออกมามากนัก

เนื่องจากโดรนตกลงมาจากความสูงหลายร้อยฟุต เมื่อรวมกับน้ำหนักโดรน 12 กิโลกรัม ถ้ามาโดรนคนอาจจะทำให้บาดเจ็บสาหัสหรือจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ นั่นจึงทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องออกมาควบคุมมากขึ้น ทาง Matternet ได้ออกแถลงการณ์ได้ทำการสอบสวนถึงสาเหตุการตกครั้งนี้ พร้อมประกาศหยุดการใช้งานโดรนขนส่งอัตโนมัติชั่วคราวจนกว่าจะพบต้นตอของปัญหา

VIA techcrunch