ปีนี้ทุกคนตื่นเต้นเรื่อง 5G กำลังมาในหลายประเทศทั่วโลก แต่สิ่งที่หลายคนลืมคิดก็คือปัญหาของการสื่อสารไร้สายก็คือการที่สัญญาณโดนปิดกั้นจากสิ่งกีดขวางต่างๆ เช่น ตึก ผนัง ทำให้สัญาณและความเร็วตกลงไป ทำให้ใช้งานแล้วหงุดหงิดใจ ทางนักวิจัยจาก MIT คิดวิธีแก้ปัญหานี้ด้วยการพัฒนาผนังอัจฉริยะที่ช่วยขยายสัญญาณ Wi-Fi ให้แรงขึ้นได้
ปกติแล้วตรงไหนที่สัญญยณมือถือหรือ Wi-Fi อ่อน สิ่งที่หลายๆคนทำก็คือเพิ่มจำนวนจุดหรือเสาส่งสัญญาณให้มากขึ้น แต่ในปัจจุบันนี้อัตราการใช้งานมือถือ แท็บเล็ตและแล็ปท็อปเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล แถมคนนึงพกมากกว่า 2 เครื่องด้วย นี่ยังไม่รวมถึงอุปกรณ์ IoT ที่ออกมาให้ใช้งานมากขึ้น ทำให้วิธีนี้อาจจะไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ ทางนักวิจัยจาก Computer Science and Artificial Intelligence Laboratory (CSAIL) ของ MIT พยายามคิดวิธีแก้ปัญหาที่จะมาใช้แทนการเพิ่มจุดส่งสัญญาณ จนได้ออกมาเป็นระบบใหม่ชื่อว่า RFocus
RFocus คือ แผ่นอัจฉริยะที่เอาไว้ติดกับผนังคล้ายๆกับวอลเปเปอร์ แต่มันมีความหนากว่า พูดให้เข้าใจง่ายๆคือพื้นผิวอัจฉริยะที่ใช้ซอฟท์แวร์ในการควบคุม ซึ่งพื้นผิวนี้จะมีสองชั้นซ้อนกันอยู่ ประกอบด้วแผงวงจรและเสารับสัญญาณมากกว่า 3,000 เสา ซอฟท์แวร์จะทำหน้าที่ตัดสินใจว่าเมื่อมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตมากระทบจะปล่อยผ่านหรือขยายสัญญาณให้แรงขึ้น ในกรณีที่สัญญาณแรงก็จะปล่อยสัญญาณทะลุผ่านไปโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย ในกรณีที่พบว่าสัญญาณอ่อน ก็จะรับสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายมาแล้วทำการขยายความแรงให้เพิ่มขึ้นได้ถึง 10 เท่า แถมราคาต้นทุนการผลิตยังถูกมากๆ เสาต้นนึงราคาไม่กี่บาทเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องทำการประมวลผลอะไรทั้งนั้น มันแค่ทำหน้าที่รวบรวมสัญญาณแล้วทำหน้าที่ควบคุมว่าจะขยายและส่งสัญญาณไปยังทิศทางที่มีอุปกรณ์เชื่อมต่ออยู่เท่านั้นเอง ทำให้ใช้ไฟฟ้าไม่มากเมื่อเทียบกับอุปกรณ์ชนิดอื่นๆ
นอกจากนั้นมันยังสามารถทำหน้าที่เป็น WiFi range extender สำหรับขยายสัญญาณ Wi-Fi ในบ้าน ซึ่งในยุค IoT อินเทอร์เน็ตจะเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้ในบ้านและโรงงานอัจฉริยะ หากสัญญาณแรงและครอบคลุมก็จะใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ยกตัวอย่างเช่น การนำมาดูแลเครื่องจักรและสินค้าในคลัง การดูแลความปลอดภัย เป็นต้น ซึ่งทางศาสตราจารย์ Hari Balakrishnan เชื่อว่าระบบนี้สามารถขยายได้เพื่อให้ต้นทุนในการผลิตถูกขึ้นไปอีก
เรียกว่าผลงานประดิษฐ์ชิ้นนี้น่าจะถูกใจ คนที่มีปัญหาสัญญาณ Wi-Fi หรือสัญญาณมือถือในบ้านอ่อน เพราะมันจะช่วยให้ทุกจุดในบ้านใช้งานอินเทอรืเน็ตไร้สายได้ลื่นไหลกว่าเดิมเยอะเลยค่ะ
VIA MIT
