หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าได้ยินข่าวกันมานานแรมเดือนว่าเราจะมีวัคซีนสำหรับ ต้าน Covid-19 แต่ทำไมยังไม่เห็นนำมาใช้เป็นรูปเป็นร่างสักที วันนี้เรามีคำตอบ มาเฉลยให้ฟังกัน

โดยธรรมเนียมปฏิบัติทางการแพทย์แล้ว เมื่อทางห้องปฏิบัติการ (ห้อง lab) ค้นพบว่า เรามีวิธีการรักษาโรคใดโรคหนึ่งนั้น ระเบียบทางการแพทย์จำเป็นจะต้องผ่านการตรวจสอบ อย่างน้อยอีก 3 ขั้นตอนใหญ่ เพื่อพิสูจน์ว่า เทคนิคดังกล่าวสามารถรักษา หรือป้องกัน โรคได้จริง

ขั้นตอนแรกคือการทดลองในสัตว์ (in vivo study/pre-clinical study) ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน และใช้งบประมาณ ไม่เกิน 10 ล้านบาท) โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีการทดลอง แบ่งเป็นอีก 2 ขั้นตอนย่อย นั้นคือการทดลองในสัตว์เล็ก ตัวอย่างเช่น หนูหรือกระต่าย และการทดลองในสัตว์ใหญ่ เช่นสุกรหรือลิง เพื่อดูผลกระทบของสารเคมีหรือตัวยาที่ทำปฏิกิริยากับสัตว์ทดลองก่อนที่จะนำมาทดลองในคน หากมีผลการทดลองที่ดีและ เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ จะเลื่อนเข้ามาสู่ขั้นตอนที่ 2

ขั้นตอนที่ 2 คือการทดลองในคน (clinical trial) ใช้เวลาในการทดลองประมาณ 1 ถึง 3 เดือน และใช้งบประมาณ 10 ล้านถึง 1,000 ล้านบาท โดยจะทำเป็นการทดลอง แบบ Randomized Blind Study หรือ Randomized Double Blind Study (ในแบบนี้ไม่ได้หมายความว่า จะปิดตามนุษย์ผู้ถูกทดสอบแล้วฉีดยาเข้าไปนะ) แต่การทดลองแบบนี้หมายถึง การที่ทั้งแพทย์และตัวคนไข้เองก็ไม่ทราบว่า ยาที่ได้รับไปนั้นเป็นยาที่ใช้รักษาตัวจริงหรือยาตัวปลอม เพราะเป็นการป้องกันการอุปทานหมู่ ในการรายงานผลการรักษา

โดยในขั้นตอนที่ 2 นี้จะแบ่งออกเป็น 3 เฟสย่อย คือการทดลองในกลุ่มผู้ป่วยระดับหลักสิบคน หลักร้อยคนและหลักพันคน ในบางประเทศอาจจะมีให้ทำเพิ่มเติมเป็นหลักหมื่นคน โดยในแต่ละ 3 เฟสย่อยนี้ ต้องทำอย่างเป็นลำดับขั้นตอน ห้ามมีการข้ามขั้นตอนโดยเด็ดขาด และหากประสบความสำเร็จก็จะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป

ขั้นตอนที่ 3 คือ นำไปใช้จริง แต่ยังจำเป็นต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของอย. ของแต่ละประเทศ หากมีผลข้างเคียงที่น่ากังวลจำเป็นจะต้องรีบรายงานผล ให้ทราบและกลับมาทบทวนถึงตำรับยาและวิธีการรักษาใหม่อีกครั้ง ดังนั้นขั้นตอนที่ 3 นี้จะเป็นขั้นตอนที่เราทุกคน สามารถใช้วัคซีนได้จริง

กล่าวโดยสรุปแล้ว ตั้งแต่เริ่มมีผลการทดลองในห้องแล็บ จนถึงเวลาที่เราจะได้ใช้จริงนั้นจะต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน กว่าที่ทางอย. ของประเทศผู้ผลิต วัคซีนจะอนุมัติให้เราใช้กันได้ ดังนั้นหากเราเริ่มเห็นข่าวว่ามีวัคซีน ที่น่าจะใช้ได้ผลออกมาเป็นข่าว ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เราก็สามารถคาดการณ์ได้ว่าเราน่าจะได้ใช้จริงประมาณเดือนมิถุนายน (อันนี้เป็นอย่างเร็วที่สุดเลย) ดังนั้นช่วงนี้ก็รักษาตัวให้ดี ให้สุขภาพแข็งแรงไว้ อย่าเพิ่งออกไปไหนกันนะ เว้นเสียแต่ว่า จะมี มาตรา article forty four มาบอกว่า ให้ประชาชนรับวัคซีนใช้เลย 5555 (ถ้าเกิดผลเสียไม่มีใครรับผิดชอบนะจ๊ะ)

ปัจจุบันมี 21 บริษัททั่วโลก ที่พยายามคิดค้นยาและวัคซีนสำหรับรักษา covid-19 ซึ่งหลายๆบริษัทตอนนี้ก็ กำลังทดลองอยู่ในขั้นตอนที่ 2 ในระดับพันคน ซึ่งคาดว่าอีก 1 เดือนหน้า คือเดือนพฤษภาคม จะสรุปผลการทดลองได้ และน่าจะผลิตใช้ได้จริงในเดือนมิถุนายน กว่าจะแจกจ่ายให้คนครบทั่วทั้งโลกก็คงอีก 2 เดือนถัดไป

ปล. สุดท้ายนี้ อย่าลืม ว่า วัคซีน คือสารป้องกันหรือลดการติดเชื้อที่ทำให้ร่างกายเราเมื่อได้รับเชื้อแล้วไม่อ่อนแอ แต่วัคซีนไม่ใช้ยารักษาน้ะจ้า เพราะฉะนั้น วัคซีนต้องฉีด ก่อนป่วยน่ะครับ หากป่วยแล้ว ยังไงก็ต้องเข้า admit ให้หมอรักษาตามอาการน่ะจ้า เพราะ โรคนี้เป็นโรคไวรัส ยังไม่มีทางรักษา โดยตรงจ้า

แหล่งข้อมูลอ้างอิง marketwatch